สรรหาครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 5 ชวน ลูกศิษย์ทั่วประเทศ เสนอชื่อครูผู้มีคุณูปการต่อวงการศึกษา

บทบาทของครูนับเป็นบทบาทที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่นักเรียนต้องเผชิญกับภาวะสูญเสียการเรียนรู้ หรือ Learning Loss จากการปิดสถานศึกษาในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรายงานของยูเนสโก ร่วมกับยูนิเซฟ และธนาคารโลก พบว่า มีเด็กอย่างน้อย 1.6 พันล้านคน ใน 188 ประเทศที่สุ่มเสี่ยงต่อภาวะสูญเสียการเรียนรู้ มาตรการของกระทรวงศึกษาธิการคือการเปิดโรงเรียนอย่างปลอดภัย และ “ครู” ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการฟื้นฟูการเรียนรู้ของผู้เรียน ด้วย 3 มาตรการที่สำคัญคือ

1. ครูเป็นผู้ที่สามารถประเมินความรู้และทักษะของนักเรียนเพื่อการพัฒนารายบุคคล เพราะนักเรียนมาจากความพร้อมของครอบครัวและความสามารถในการเรียนรู้ที่ต่างกัน

2. ครูจะต้องมีทักษะในการสอนเสริมเพิ่มเติมความรู้ให้นักเรียน เช่น ใช้กระบวนการสอนเสริมนอกเวลาเรียน หรือการซ่อมเสริมพิเศษในช่วงปิดภาคเรียนเพื่อให้สามารถเติมเต็มความรู้ได้ทัน

3. ครูควรมองเห็นและระบุปัญหาทางจิตใจ อารมณ์ สังคมของนักเรียน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากวิกฤติของโรคระบาดและผลกระทบทางเศรษฐกิจสังคม โดยสามารถให้คำปรึกษาในเบื้องต้น หรือส่งต่อไปยังหน่วยงานทางสาธารณสุข

รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เป็นรางวัลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจ้าฟ้านักการศึกษา และเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแก่ครูผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์ และมีคุณูปการต่อการศึกษา ในประเทศอาเซียนและติมอร์ เลสเต รวม 11 ประเทศ โดยจะมีการสรรหาในทุก 2 ปีครั้ง ประเทศละ 1 รางวัล จากความร่วมมือของกระทรวงศึกษาธิการทั้ง 11 ประเทศ สำหรับการคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2565 ในส่วนของประเทศไทย กลไกการสรรหาจะงประกอบด้วย คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด และคณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง เพื่อร่วมกันสรรหาครูผู้มีคุณสมบัติ เป็นครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงชีวิตศิษย์ และมีคุณูปการต่อวงการศึกษา โดยมีประสบการณ์สอนอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 15 ปี ซึ่งเป็นครูหรือเคยเป็นครูผู้สอนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสถานศึกษาของรัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือเคยเป็นครูนอกสถานศึกษาที่สอนผู้เรียนในวัยการศึกษาขั้นพื้นฐาน และไม่เป็นครูสอนพิเศษเป็นอาชีพหลัก

การสรรหาครูในครั้งนี้จะเปิดให้ผู้มีสิทธิเสนอชื่อครูมาจาก 5 กลุ่ม คือ

1. ลูกศิษย์ที่เป็นศิษย์เก่า อายุไม่น้อยกว่า 25 ปี

2. สถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

3. สมาคม มูลนิธิ องค์กรซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลและมีภารกิจส่งเสริมการเรียนรู้

4. คณาจารย์ในระดับอุดมศึกษา รวมกันไม่น้อยกว่า 3 คน ทั้ง 4 กลุ่มนี้เสนอชื่อครูมาที่คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด หรือ www.PMCA.or.th

กลุ่มที่ 5 คือ องค์กรที่มีการพิจารณาคัดเลือกครูทั้ง 7 แห่ง โดยจะมีการเปิดรับการเสนอชื่อได้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึง ต.ค. 2565 และจะมีการพิจารณาตัดสินในวันที่ 18 เม.ย. 2566 เพื่อเข้ารับพิธีพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ในวันที่ 17 ต.ค. 2566 ซึ่งรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จะประกอบด้วย เหรียญทอง เข็มเชิดชูเกียรติทองคำพระราชทาน เกียรติบัตร โล่ประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนในประเทศไทยมีรางวัลเพิ่มเติมได้แก่ รางวัลคุณากร 2 รางวัล รางวัลครูยิ่งคุณ 17 รางวัล และรางวัลครูขวัญศิษย์ เพื่อเชิดชูครูในแต่ละจังหวัด จึงถึงเวลาแล้วที่ลูกศิษย์ทั่วประเทศจะมาร่วมกันระลึกถึงครูที่เปลี่ยนแปลงชีวิตและทุ่มเททำงาน โดยเสนอชื่อครูมาที่ www.PMCA.or.th

ที่มา  https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220830090245405

Go to top